เอเลี่ยน Horror และ จอร์แดน พีล ก็เพียงพอที่จะทำให้ Nope กลายเป็นหนังที่พวกเราต่างเฝ้ารอแห่งปี มันเป็นหนังแบบไหน แอดมินรู้สึกต่อหนังเรื่องนี้ยังไง บทความนี้มีคำตอบ

Nope ผลงานกำกับลำดับที่ 3 ของ คอมเมเดี้ยนสุดฮาอย่าง จอร์แดน พีล แม้จะเคยดูผลงานของพี่แกจากซีรีส์หลายๆ เรื่อง แต่ถ้าใครเคยผ่านตากับรายการที่มีชื่อว่า #KEYANDPEELE จากช่อง Comedy Central ใครยังไม่เคยดูลองค้นหาดูได้ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง กลับมาที่หนังเรื่องนี้กันต่อ ด้วยผลงานอย่าง Get Out และ Us จอร์แดน พีล ได้ตอบทุกข้อสงสัยไปแล้วว่า คนที่มาจากสายคอมเมดี้จะสามารถกำกับหนังสยองขวัญได้หรือเปล่า คำถามพวกนั้นมันได้หายไปหมดแล้ว ทิ้งไว้เพียงแต่ว่าหนังเรื่องใหม่ของพีลนั้นจะเจ๋งได้ขนาดไหน สำหรับ Nope นั้นเป็นหนังใครที่ได้ดูตัวอย่างแล้วต่างรู้สึกตื่นเต้นมากที่สุด เมฆประหลาดหรือตัวอะไรก็ไม่รู้จากท้องฟ้า มันจะเป็นมนุษย์ต่างดาวหรือไม่ หนังของพีลเรื่องนี้จะเกี่ยวกับการมาเยือนของเอเลี่ยนอย่างนั้นหรือ? แค่คิดก็ตื่นเต้นแล้ว เพราะว่าหนังแนวนี้มันห่างหายจากจอไปนานพอสมควร อยากจะรู้จริงๆว่าผู้กำกับคนนี้จะบอกเล่าเรื่องราวของจานบินเชยๆ ตกยุคพวกนี้ออกมาในรูปแบบไหน

โดยเรื่องราวของ Nope จะเกิดขึ้นรอบตัวของ OJ และ M สองพี่น้องนักฝึกม้าผิวดำสำหรับการแสดง กิจกรรมที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษที่ทั้งคู่เพิ่งได้รับไม้ต่อจากพ่อของเขา ผู้ที่เพิ่งจะจากไปด้วยเหตุการณ์ประหลาด เมื่อจู่ๆก็มีข้าวของตกลงมาจากท้องฟ้า อย่างไม่ทันได้ตั้งตัว หลายคนคิดว่ามันอาจเป็นอุบัติเหตุมาจากเครื่องบิน แต่ว่า OJ ยังติดใจเรื่องนี้อยู่ หนุ่มเลี้ยงม้าเฝ้ามองไปยังท้องฟ้าทุกวัน จนเวลาผ่านไปนับเดือน เขาเริ่มจับสังเกตได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติข้างบนนั้น เมื่อมีเมฆก้อนหนึ่งลอยอยู่ที่เดิมเสมอไม่มีเปลี่ยนไป ปฏิบัติการตามล่าหาความจริงจึงเริ่มต้นขึ้น พร้อมกับเรื่องราวแปลกๆ ที่ต่างทยอยเกิดขึ้นไม่หยุด อะไรอยู่บนนั้นกันแน่? เรื่องราวจะเป็นยังไงต่อสามารถติดตามได้ใน Nope รับรองว่าว้าวอย่างแน่นอน

สำหรับ Nope นั้น อาจไม่ใช่หนังที่มีองค์ประกอบหรือแนวคิดที่ล้ำหลุดโลกแต่อย่างใด แต่เป็นการหยิบเอาสิ่งต่างๆ ของหนังสยองขวัญเรื่องอื่นๆ มาประยุกต์และประกอบกันจนเป็น Nope ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังดู JAWS ในเวอร์ชั่นท้องฟ้า มันเป็นแบบนั้นจริงๆ โดยปกติแล้วถ้าเราอยู่กลางท้องทะเล เราจะหวาดเสียวขาว่ามันอาจจะมีฉลามโผล่มางับเราหรือเปล่า แต่คราวนี้ Nope จะทำให้เราแหงนมองท้องฟ้า แล้วหวาดระแวงว่ามันจะมีอะไรหรือเปล่า หนังไม่ได้ชวนหวาดเสียว เลือดสาดอะไรทำนองนั้น ให้กลิ่นไอความเป็นเลิฟคราฟต์อยู่นิดหน่อย มีความฉงนใจหวาดกลัวในสิ่งที่ไม่รู้ และให้ความรู้สึกว่าเรานั้นตัวเล็กเหลือเกิน อะไรประมาณนั้น จุดไคลแมกซ์ของเรื่องทำออกมาได้ดี มีกิมมิกเล็กๆ เพิ่มความสยองให้กับเจ้าสิ่งนั้นมากเลยทีเดียว ทั้งภาพและเสียงสมจริง นับเป็นหนังสยองขวัญเรื่องแรกที่ถ่ายทำด้วยระบบ IMAX มีการถ่ายภาพมุมกว้าง ภาพท้องฟ้าและทิวทัศน์เยอะมากๆ วัตถุต่างๆ ในเรื่องก็ใหญ่โตสุดๆ ทำให้เห็นรายละเอียดที่ผู้กำกับอยากจะให้เราเห็น โดยเฉพาะช่วงท้ายเรื่องมันเป็นอะไรที่งดงามสุดๆ ดูสนุกเพลิดเพลินเลยทีเดียว
