ในยุคโบราณ Valar ที่เป็นดั่งเทพเจ้าผู้สร้างโลกได้สร้างต้นไม้ขึ้นมาสองต้น นั่นคือต้นไม้เงินและต้นไม้ทองแห่งวาลินอร์ Valinor (ดินแดนแห่งวาลาร์) ที่ให้แสงสว่างแก่โลกนี้ ซึ่งแฟร์นอร์ ผู้นำของเหล่าเอลฟ์ ได้สร้างอัญมณีซิลมาริล ที่เก็บแสงของต้นไม้เหล่านี้ไว้ แต่ว่าจอมมารมอร์ก็อธได้เผาทำลายต้นไม้ทั้งสองไป และได้ขโมยมณีแห่งซิลมาริลไปจากพวกเอลฟ์ด้วย ทำให้แฟร์นอร์และลูกๆ ของเขา สาบานว่าจะออกเดินทางตามหาและชิงมณีซิลมาริลกลับคืนมา และก็ได้นำมาซึ่งสงครามจำนวนมาก จนกระทั่งสงครามครั้งสุดท้าย ที่พันธมิตรมนุษย์ เอลฟ์ และคนแคระ ได้ปราบมอร์ก็อธลงได้ และมณีแห่งซิลมาริลก็ได้กระจายไปยังผืนดิน ทะเล และดวงดาวบนฟ้า นั่นเอง

หลังจากสงครามจบลง เหล่าผู้ที่เข้าร่วมสงครามบางส่วน ได้มาลงหลักปักฐานในมิดเดิลเอิร์ธ ซึ่งก็จะนำมาซึ่งตัวละครหลักในซีรีส์นี้ได้แก่ เอลรอน เจ้านครแห่งริเวนเดล ที่เราค้นเคยจากไตรภาค The Lord of the Rings โดยที่ตอนนี้ยังหนุ่มแน่น และหลังจากสงคราม เอลโรส พี่ชายของเขาก็ได้เลือกที่จะละทิ้งชีวิตอมตะ เพื่อไปอยู่ท่ามกลางมนุษย์ในฐานะกษัตริย์องค์แรกของนูเมนอร์ เป็นอาณาจักรมนุษย์ที่อยู่กลางทะเล ส่วน เอลรอน เลือกที่จะติดตาม กิลกาลัด ราชาเอลฟ์มาตั้งรกรากที่นครลินดอน

เส้นเรื่องหลักของเอลรอน ในซีรีส์ The Rings of Power นั้นจะเป็นภารกิจทางการทูตเพื่อสานสัมพันธ์ระหว่าง เอลฟ์กับคนแคระ แห่งคาซิดดูมในยุคที่รุ่งเรือง ไม่เหมือนใน The Lord of the Rings เอลรอนที่จะได้เจอในซีรีส์นี้ จึงต้องค้นหาตัวตนและเป้าหลมายของตนเอง กว่าจะได้มาเป็นเจ้านครริเวนเดล อย่างที่เราเห็นในหนัง

ส่วนตัวละครสำคัญที่หนึ่งตัวที่น่าจะคุ้นเคยกันดี นั่นคือ กาลาเดรียล เอลฟ์ที่เกิดขึ้นมาบนทวีปอามันตั้งแต่ยุคแห่งพฤกษา เธอยังมีศักดิ์เป็นหลานของ เฟอานอร์ บุคคลระดับตำนานของเอลฟ์ผู้สร้างซิลมาริล หลังจากสงครามที่พี่ชายของเธอ ฟินร็อด ตายในสงครามจากการปกป้องมนุษย์ที่ชื่อ เบเรน ซึ่งเขาคนนี้ก็จะกลายเป็นต้นตระกูลของอารากอนในอนาคตอีกด้วย กาลาเดรียล ที่ตอนนี้ยังเป็นสาว ได้เห็นนิมิตรถึงภัยร้ายที่หลบซ่อนอยู่ ซึ่งก็คือ เซารอน สมุนมือขวาของจอมมาร มอร์ก็อธ ที่รอดจากสงครามและยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของ ฟินร็อด พี่ชายของเธอ ทำให้เส้นเรื่องของ The Rings of Power เราจะได้เห็นเธอสานต่อภารกิจทางการทูตกับเหล่ามนุษย์แห่งนูเมนอร์ และเป้าหมายหลักของเธอในการตามหา เซารอน เพื่อล้างแค้นให้กับพี่ชาย


ส่วนตัวละครหลักที่เราจะได้เห็นกันในซีรีส์นี้ ได้แก่ กิลกาลัด ราชาเอลฟ์แห่งลินดอน และ เคเรบินบอร์ หลานอีกคนของ เฟอานอร์ ซึ่งเขาคนนี้ก็จะกลายไปเป็นผู้สร้างแห่งอำนาจในอนาคต พวกเขาทั้งคู่ได้มอบภารกิจในการกระชับสัมพันธ์เอลฟ์และคนแคระให้กับเอลรอน ที่จะได้ไปพบกับ ดูริน ที่ 4 แห่งคาซัดดูม ที่กำลังเผชิญหน้าสถานการณ์การค้นพบแร่ล้ำค่าในเหมืองแร่มิธริล ที่จะถูกนำมาสร้างชุดเกราะให้กับ โฟลโด้ ในอนาคตอีกด้วย แต่ว่าแร่มิธริลก็จะนำมาซึ่งความวิบัติจากความโลภและการขุดหาแร่นี้มากเกินไปจนเป็นการปลุกมังกรบัลร็อกขึ้นมาจากใต้ดิน


มนุษย์ในดินแดนแห่งนูเมนอร์ ที่ปกครองโดยราชินีมีเรียล ทายาทของเอลโรส พี่ชายของเอลรอนซึ่งได้ละทิ้งชีวิตอมตะไป ด้วยความที่มีเชื้อสายเอลฟ์ ทำให้ชาวนูเมนอร์มีอายุที่ยืนยาว แต่ก็ไม่เทียบเท่าชีวิตของเหล่าเอลฟ์ ซึ่งก็ทำให้ชาวนูเมนอร์บางส่วนเกิดความอิจฉาเพราะพวกเขาก็ต้องการชีวิตอมตะเช่นกัน ชาวนูเมนอร์ที่สำคัญอีกกลุ่มหนึ่งใน Rings of Power คือครอบครัวกะลาสีเรือ เออาเรนดิล อิซิลดูร์ และเออาเรียน ซึ่งอิซิลดูร์คนนี้ก็จะกลายเป็นนักรบ และเป็นกษัตริย์ผู้ปราบเซารอน รวมไปถึงคนที่ละหน้าที่ทำลายแหวนอย่างที่เราได้เห็นในหนังไตรภาคอีกด้วย

นอกจากเส้นเรื่องของมนุษย์ เอลฟ์ และคนแคระ ในซีรีส์ Ring of Power ก็จะมีเรื่องราวของเหล่า ฮาล์ฟุต ที่เป็นหนึ่งในชนเผ่าต้นสายของเหล่าฮอบบิท ที่ตอนนี้ก็ยังไม่ได้ไปลงหลักปักฐานใน ดินแดนไชร์ เหมือนในหนัง แต่เป็นชนเผ่าเร่ร่อนที่ออกเดินทางไปทั่ว ซึ่งในซีรีส์ Rings of Power พวกเขาจะได้พบกับชายที่ตกลงมาพร้อมอุกกาบาต และเส้นเรื่องของเอลฟ์ป่า ที่มีชื่อว่า อารันเดียร์ ที่ได้พบรักกับหญิงสาวชาวมนุษย์ พวกเขาทั้งคู่ได้เดินทางด้วยกันในดินแดนที่ใกล้ชิดกับเหล่ามนุษย์ที่นับถือเซารอน ซึ่งลูกชายของทั้งสองก็ได้พบกับดาบเวทย์มนต์ มอร์กูเบลด ที่จะเป็นปัญหาในซีรีย์ต่อมาเช่นกัน

ในซีรีย์ The Rings of Power เราจะได้พบกับเซารอนที่ไปปั่นประสาท สร้างอำนาจในดินแดงต่างๆ อย่างแน่นอน แต่ว่าเขาจะมาในร่างใดบ้าง โปรดติดตามชมในซีรีส์ The Rings of Power แหวนแห่งอำนาจ เรื่องราวการสร้างแหวนของเซารอน การขึ้นสู่อำนาจที่จะนำไปสู่มหาสงครามใน The Lord of the Rings และน่าจะเป็นจุดสิ้นสุดของซีรีส์นี้